'หยุด' เหยียบย่ำหัวใจพริตตี้!! : สตอป-ศรัณรักษ์


“ศรัณรักษ์ ศิริรำไพวงษ์” มีชื่อเล่นๆ ว่า “สต๊อป” และเพียงแรกพบ เราเชื่อว่า หนุ่มๆ ทุกคนก็คงอยากจะ Stop ชีวิตและวันเวลา “หยุด” อยู่กับเธอคนนี้

เธอคือดวงดาวของอีเวนต์ คือดาวเด่นแห่งวงการพริตตี้ที่งานชุกมากที่สุดคนหนึ่ง กระทั่งได้รับการขนานนามว่า “พริตตี้เงินล้าน”
แต่นั่นเพียงภาพผิวเผิน เพราะลึกลงไปในเนื้องานและอาชีพ การเป็นพริตตี้ก็มีด้านเศร้า
“เขาว่ากันว่าพริตตี้ชอบขายตัว” เรารู้สึกผิดอยู่บ้างที่จำเป็นต้องโยนคำถามนี้ให้เธอ แต่ก็น่าขอบคุณ เธอผ่อนคลายความเครียดในความคิดของเรา ด้วยคำตอบชัดเจน ผ่านเสียงใสๆ น่าหลงใหล ไร้แววขุ่นเคือง
แน่ล่ะว่า ขณะที่หนุ่มๆ อาจจะอยาก Stop หัวใจไว้ที่เธอ เธอก็มีบางอย่างที่อยากจะให้ผู้คน Stop ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับการเป็นพริตตี้ด้วยเช่นกัน
และเรา…เรียกสิ่งนั้นว่า “มายาคติ” (Myth)

ถ้าอยากรู้จักสตอปแบบสั้นๆ ด้วยนิยามง่ายๆ สตอปจะใช้คำไหนครับ?
สตอปเป็นคนสบายๆ ค่ะ ไม่ค่อยเรื่องมาก ไม่ว่าจะอยู่กับเพื่อนหรือแฟน ก็ดี แต่อาจจะมีขี้งอนบ้าง เอาแต่ใจตัวเองนิดหน่อยตามประสาผู้หญิงค่ะ

การจะจีบสตอปเป็นเรื่องยากหรือง่ายครับ?
ยากค่ะ เพราะว่าเราไม่ค่อยเปิดกว้าง อย่างอยู่ดีๆ มีคนมาจีบมาขอเบอร์ เราก็จะไม่คุยด้วยอยู่แล้ว นอกเสียจากว่า เป็นเพื่อนของเพื่อนมาเจอกัน แต่ว่าถ้าอยู่ดีๆ เดินโท่งๆ มาจีบเลย สตอปไม่เคยคุยด้วยเลยสักคน มาจีบ มาขอเบอร์ ต๊อปก็บอกว่าไม่ให้ ไม่ได้หมายความว่าเราหยิ่งนะ แต่ที่ไม่ให้เพราะว่าเรามีแฟนแล้ว

อ้าว!! มีแฟนแล้วด้วย?
(หัวเราะ) คือสตอปคิดว่า เราคบใคร เราก็ต้องให้เกียรติเขา เราคบกับเขาแล้ว ก็บอกว่าเราเป็นแฟนกันนะ ไม่ใช่ว่าต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ว่าเราไม่มีแฟน การทำอย่างนั้น มันก็เหมือนกับว่าเราไม่ให้เกียรติแฟนเราซึ่งถือว่าเป็นคนที่เราใกล้ชิดหรือสนิทสนมด้วยที่สุด ส่วนว่า ถ้าเป็นเรื่องของการทำงาน สตอปคิดว่า ถ้าคนเขาจะชื่นชอบเรา เขาก็ชื่นชอบที่ผลงานเรามากกว่า ไม่เกี่ยวกับว่าเรามีแฟนแล้วหรือไม่มี

ในเฟซบุ๊ก มีตั้งสถานะไว้เลยไหมว่า In Relationship With คนนั้นคนนี้?
มีค่ะ สตอปถือว่ามันเป็นการให้เกียรติ สมมติว่าเรามีแฟน แล้วแฟนเราไปบอกคนอื่นว่า โสด ยังไม่มีแฟน เราต้องคิดแล้วล่ะว่าเขาจริงใจกับเราจริงไหม และในทางกลับกัน การที่เราทำงานตรงนี้ มีคนรู้จักเราเยอะ แต่เราก็ให้เกียรติเขาด้วยการที่เราบอกไปเลยว่าเรามีแฟนแล้วนะ คบคนนี้อยู่ แฟนเราเขาก็คงรู้สึกดีกับเรา

แสดงว่าไม่มีวันคิดเรื่องกุ๊กเรื่องกิ๊กแน่นอนสิอย่างนี้?
ไม่มีค่ะ (หัวเราะร่วน) แต่ว่าก็มีคนเข้ามาจีบเข้ามาคุยเยอะเหมือนกัน แต่สตอปก็จะบอกกลับไปว่า สตอปมีแฟนแล้ว

อยากรู้จัง คนที่ได้หัวใจของสตอป เขาเป็นคนแบบไหนกันนะ?
สตอปไม่ชอบผู้ชายนิ่งๆ เก๊กๆ แต่จะชอบผู้ชายอบอุ่น น่ารัก ขี้เล่น ตลก อยู่ด้วยแล้วเราเล่นกับเขาได้ แล้วเวลาเล่นกับเขา เขาก็เล่นกับเรา มีทั้งความเป็นผู้ใหญ่และความเป็นเด็กอยู่ในตัว และที่สำคัญ สตอปชอบคนทำงาน ถ้ามีคนมาจีบแล้วเป็นคนที่ไม่ทำการทำงาน สตอปจะไม่ชอบตั้งแต่แรกเลยล่ะ เพราะตัวของสตอปเองก็ทำงาน ชอบทำงาน เพราะฉะนั้น คนที่แฟนสตอป ต้องเป็นคนทำงานด้วย อาจไม่ต้องขยันมากกว่าสตอปก็ได้ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ทำอะไรเลย

กับงานของสตอป คือการเป็นพริตตี้ คิดว่าอาชีพนี้มันมีอะไรเป็นหัวใจหลัก?
ใจความสำคัญของการเป็นพริตตี้ คือการที่เราทำงานให้กับเจ้าของบริษัทหรือสินค้า แล้วเราสามารถทำให้สินค้านั้นหรือบริษัทนั้น ได้รับความสนใจจากประชาชนหรือลูกค้า สินค้าแต่ละอย่างมันต้องมีจุดเด่นหรือจุดขายของมัน แต่บางที ถ้าเราเอาสินค้าไปวางไว้เฉยๆ คนอาจจะไม่ได้เข้ามาดูหรือเข้ามาให้ความสนใจ แต่พริตตี้จะเป็นจุดเรียกความสนใจได้ด้วย เป็นด่านแรกที่ดึงดูดลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายเข้ามา พอเขามา เขาก็จะได้ถามว่าสินค้านี้มันเป็นอย่างไร และตรงจุดนั้นแหละ เราก็มีส่วนทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจในตัวสินค้าเพิ่มมากขึ้น

ใช้หน้าตาเป็นอาวุธ?
ก็ใช้ทุกอย่างนั่นแหละค่ะ ใช้ทั้งความสามารถในการพูด ในการพรีเซนต์คุณสมบัติของสินค้า

คิดอย่างไรกับการที่พริตตี้มักจะถูกมองด้วยสายตาแบบ…?
แบบดูถูกใช่ไหมคะ สตอปคิดว่า มันมีสองส่วนค่ะ คือเราไม่สามารถจะไปห้ามคนอื่นที่มองเข้ามาว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ได้ มันแล้วแต่คนจะมอง ผู้ชายส่วนใหญ่ที่ไม่ได้มีเพื่อนเป็นพริตตี้หรือว่าไม่ได้มีน้องๆ ญาติๆ เป็นพริตตี้ เขาก็มองแล้วว่าพริตตี้ไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ แต่อีกกลุ่มหนึ่งที่มีเพื่อนเป็นพริตตี้ เขาก็จะรู้ว่า จริงๆ แล้ว พริตตี้ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ใครชอบคิด หรือว่าไม่ได้มืดมน แต่พูดจริงๆ ทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นพริตตี้หรือว่าวงการไหนๆ ก็ตามแต่ มันก็ต้องมีทั้งด้านมืดด้านสว่าง คนดีก็มี คนที่อาจจะทำตัวเกเรไป มันก็มี ไม่ใช่ว่าวงการพริตตี้เท่านั้นที่มีเรื่องแบบนี้ มันเป็นทุกสังคม ทุกวงการอาชีพ ดังนั้น ผู้ชายที่ชอบมองว่าพริตตี้ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ สตอปก็จะบอกว่า เขาอาจจะยังไม่เคยรู้จักหรือสัมผัสจริงๆ หรือเปล่าว่า เอ๊ย ในวงการพริตตี้ คนดีๆ มันก็มีนะ

เมื่อกี้พูดถึงด้านมืดของพริตตี้ อะไรคือด้านมืดที่ว่านั้น?
จริงๆ สตอปไม่ได้หมายถึงด้านมืดนะคะ แต่…อย่างเช่น คนที่มองว่าพริตตี้ไม่ดี ก็อาจจะคิดว่า พริตตี้เจ้าชู้ เจอผู้ชายเยอะ ไปทำงานแล้วเจอผู้ชายเยอะ มีคนโน้นคนนี้มาจีบ แล้วก็เปลี่ยนผู้ชายบ่อย หรือเห็นว่าเราจีบง่าย ก็จะมองพริตตี้ว่าเป็นคนไม่ดี เจ้าชู้ ใจง่าย จีบได้ง่ายๆ หรืออะไรทำนองนั้น

ที่สุดแล้ว ก็จะถูกโยงไปถึงเรื่องเซ็กซ์?
สำหรับสตอปแล้ว คิดว่า เรื่องเซ็กซ์ มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าเป็นพริตตี้หรือไม่เป็นเลยนะ มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนทุกเพศอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าจะขายตัวได้เท่านั้น

แสดงว่าสตอปก็ย่อมจะรู้ว่ามันมีความคิดของคนที่ชอบคิดว่า พริตตี้ขายตัว?
ถามว่ามีมั้ย สตอปก็ไม่สามารถพูดได้ว่ามี มีแน่นอน อะไรอย่างนั้น สตอปคิดว่าเรื่องแบบนี้มันมีทุกสาขาอาชีพ มันจะระบุว่าเป็นพริตตี้แล้วมาทำอย่างนั้น มันก็ไม่ได้หรอกค่ะ อย่างแบบข่าวนักศึกษาขายตัว ก็ยังมี เพราะฉะนั้น มันขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากกว่า อย่าบอกว่าเป็นพริตตี้แล้วขายตัว อย่าไปพูดดีกว่า เพราะว่าเพื่อนของสตอปที่ทำงานพริตตี้มาด้วยกัน เขาก็เป็นผู้หญิงดีๆ ด้วยกันทั้งนั้น

แสดงว่าภาพที่คนส่วนใหญ่มองเข้าไป ก็ถือเป็นมายาคติหรือภาพลวงเท่านั้นเอง?
คือจริงๆ มันมีมองหลายอย่าง อย่างแรกเลย คือมองไม่ดีโดยที่ยังไม่ได้มารู้จัก อันนี้ถือเป็นมายาคติหรืออคติก็ได้ ที่คิดว่าใครก็ตามที่เป็นพริตตี้ เป็นคนไม่ดีก่อนเลย แต่ยังไม่ได้มาเรียนรู้กัน ไม่ได้มาทำความรู้จักว่านิสัยเป็นยังไง แต่ว่าถ้าเกิดเขาได้มาเรียนรู้แล้ว มาทำความรู้จักแล้ว เขาจะเห็นว่า เออ พริตตี้คนนั้นๆ ไม่ดีจริงๆ นะ ก็ต้องระบุเป็นคนๆ ไป นั่นก็คือพฤติกรรมของพริตตี้คนนั้นคนเดียว ไม่ใช่ว่าพริตตี้ทุกคนต้องเป็นแบบนั้น

สำหรับสตอป มองว่าอะไรคือความทุกข์มากๆ ของการเป็นพริตตี้?
หนึ่ง คือการที่คนอื่นเขาจะมองเราแบบดูถูก มองว่าพริตตี้ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ หรือว่าผู้ชายที่เข้ามาจีบเรา ตอนแรกก็จะคิดว่า มาจีบเล่นๆ แล้วคิดว่าพริตตี้เป็นของเล่น จีบง่ายๆ ทิ้งง่ายๆ ไม่มีหัวใจ เพราะพอเป็นพริตตี้ปุ๊บ ภาพลักษณ์ก็กลายเป็นไม่ดีไปแล้ว พริตตี้ถูกเหยียบย่ำหัวใจมาก
เราเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ทำอาชีพสุจริต แต่บางที ลูกค้า…คือต้องบอกว่า พริตตี้ทุกๆ คนจะเจอแบบนี้ คือพวกลูกค้าที่เป็นผู้ชายที่เข้ามา บางทีก็พูดมาแบบไม่ให้เกียรติเราบ้างล่ะ ทั้งๆ ที่พริตตี้ที่มายืนทำงาน บางคนเรียนจบมาสูง จบปริญญาโท แต่เขาอาจจะชอบงานด้านนี้ บางคนบ้านรวยนะคะ มีเงิน แต่ก็มาทำ เพราะว่ามีเพื่อน ชอบอะไรแปลกใหม่ ได้ประสบการณ์ แต่ว่าพอมาทำงานปุ๊บก็โดนดูถูกแล้ว มาทำงานก็เจอลูกค้าไม่ดี พูดจาแทะโลมเรา มาอย่างโง้นอย่างงี้ มันก็รู้สึกแย่นะคะ
เวลาสตอปเจอผู้ชายที่มาพูดจาไม่ดี ก็จะแสดงออกทางสีหน้าเลยนะว่าเราไม่พอใจแล้วเราก็จะไม่พูดเล่นด้วย สมมติว่ามาแซว ผู้ชายมาเป็นกลุ่มแล้วมาแซวเรา เราก็จะเบือนหน้าหนีไปเลย จะไม่มีการไปพูดต่อล้อต่อต่อเถียงหรือหัวร่อต่อกระซิกกับเขา แต่จะแสดงให้เห็นเลยว่า ฉันไม่พอใจคุณนะ อย่ามาพูดแบบนี้

ว่ากันว่าสตอปเป็นพริตตี้คิวทอง อยากรู้ว่าพริตตี้สุดฮอตอย่างคุณใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง?
สตอปเป็นคนที่ไม่ค่อยฟุ่มเฟือยกับพวกของใช้ อย่างเสื้อผ้า กระเป๋า เท่าไหร่ ก็เลยมีเงินเก็บ อย่างกระเป๋าแพงๆ หรือกระเป๋าดีๆ สตอปก็จะมีบ้าง แต่ไม่ได้แบบว่า ซื้อๆๆ ก็จะมีบ้างใบสองใบ มีไว้ใช้แบบดีๆ บ้าง สตอปเป็นคนที่ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย กินอยู่ง่าย ชอบเดินช็อปในที่ที่ของถูกๆ สวยๆ เหมือนเมื่อบ่ายนี้ สตอปก็เพิ่งไปช็อปมาที่ยูเนี่ยนมอลล์ ก็ไปเดินซื้อของ

ผู้หญิงส่วนหนึ่ง พอมีเงินก็เดินเข้าหาแบรนด์เนม สตอปเป็นอย่างนั้นไหม?
ไม่บ้าแบรนด์ค่ะ ถามว่าชอบดูไหม ก็ชอบดูนะ ของแบรนด์เนม จะชอบดูอันนั้นสวยอันนี้สวย แต่ถามว่า ถ้าเรามีเงินปุ๊บแล้วไปซื้อปั๊บ อย่างนั้นไม่ใช่ เพราะว่าสตอปเป็นคนทำงานและชอบเก็บเงินมากกว่า ช่วยที่บ้าน และเอาเงินไปลงทุนทำธุรกิจ ตอนนี้ก็ทำร้านส้มตำกับเพื่อน เราก็ใช้เงินจากการเป็นพริตตี้นี่แหล่ะค่ะที่ได้ไปลงทุนต่อยอด

ถามถึงวิธีคิดและแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตของสตอปบ้างครับว่าเป็นอย่างไร?
ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบค่ะ จะมีความสุขแล้วก็ทำได้ดี คือสตอปเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาบังคับหรือมาสั่ง ต้องเดินทางนี้ ต้องทำอย่างนี้ ถ้าใครมาบังคับ สตอปจะไม่ทำ แต่ถ้าเขาบังคับในสิ่งที่เราอยากทำอยู่แล้ว เราก็จะทำ ดังนั้น เราก็จะทำเฉพาะในสิ่งที่ตัวเองชอบและรัก

แล้วกับเรื่องความรักล่ะครับ?
อยู่กับคนที่เราแฮปปี้เวลาอยู่ด้วย คุยกันสนุก เป็นเหมือนทั้งแฟน ทั้งพี่ทั้งน้อง เราก็ต้องเป็นห่วงเป็นใยเขา พอเราเป็นห่วงเป็นใยเขา เขาก็เป็นห่วงเป็นใยเรา เราอยากจะให้เขาพูดดีๆ กับเรา เราก็ต้องพูดดีๆ กับเขา แล้วเขาก็จะพูดดีๆ กับเรากลับคืนมา
ถ้าอยากเราให้ใครทำอะไรให้กับเรา เราก็ต้องทำสิ่งนั้นก่อน อย่างแฟนของต๊อป ตอนคบกันแรกๆ เขาจะเป็นคนที่แข็งๆ กร้าวๆ ดิบๆ ไม่สนใจ ไม่อ่อนโยน แต่เราชอบผู้ชายอ่อนโยน เราก็พยายามทำตัวอ่อนโยนกับเขา เหมือนค่อยๆ ซึม เขาก็เริ่มเลียนแบบพฤติกรรมเรา
มันเหมือนกับว่าเป็นทฤษฎีนะว่า เวลาอยู่ด้วยกัน เราทำแบบไหนไป เขาก็จะเลียน ทำตัวคล้ายๆ กัน ทุกวันนี้ ก็เลยปรับตัวเข้าหากันและอยู่ด้วยกันแบบมีความสุขมาก

ภาพ : นิตยสาร mars

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE