บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ : นายกฯ ของคนยาก

ไม่ใช่ผู้นำประเทศ แต่ก็ไม่เคยปฏิเสธการช่วยเหลือประชาชน
ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี แต่วิถีแห่งการกระทำ ก็แทบเป็นสิ่งเดียวกันกับที่นายกฯ พึงกระทำ

บางคนถึงขั้นเปรียบเปรยว่า ถ้าครั้งหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ ตอนที่มหาธาราไหลบ่าท่วมบ้านเรือนของผู้คน พิธีกรรายการทีวีชื่อดังอย่าง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ได้สวมบทบาทราวกับว่ากำลังทำหน้าที่นายกฯ ช่วยเหลือผู้คนที่ประสบอุทกภัย…บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ก็คงไม่ต่างไปจากนั้น
เพียงแต่สิ่งที่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กระทำ มันอาจไม่ถูกตอกย้ำด้วย “สื่อสาธารณะ” และเขาก็…เสมอต้นเสมอปลาย แม้จะมีใครหรือไม่มีใครมองเห็นก็ตามที

แน่นอนว่า ณ จุดนี้ เขาคือหนึ่งในผู้ชายที่เรามองดูด้วยสายตาแห่งความชื่นชมนับถือ เขาคือชายผู้ปิดทองหลังพระ และถ้าหากจะมีตำแหน่งอะไรสักตำแหน่งที่เหมาะแก่เขามาก เราคิดว่า เขาคือ “นายกรัฐมนตรีของคนทุกข์คนยาก” ตัวจริงเสียงจริง!!

จุดเริ่มต้น : บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ หรือ ท็อป บรรลือฤทธิ์ เข้าสู่วงการด้วยการถ่ายแบบ และแสดงเป็นตัวประกอบ ก่อนจะมารับบทนำจากการแนะนำของ คมน์ อรรฆเดช จากนั้นจึงทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังในด้านละครโทรทัศน์ เป็นต้นมา นอกจากนั้นยังมีผลงานกำกับการแสดงให้หลายคนได้เห็นกัน อาทิ เรื่อง ตำนานกระสือ, ช้างเพื่อนแก้ว และล่าสุดคือ ปัญญาเรณู ฯลฯ และบิณฑ์ยังเป็นดาราคนหนึ่งที่ทำงานช่วยเหลือสังคมโดยเป็นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ยาวนานถึง 20 กว่าปี



การไปร่วมเป็นอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู : ความเคยชินที่ได้เห็นมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและมูลนิธิร่วมกตัญญูมาช่วยเหลือคนจนและชาวบ้าน ซึ่งส่วนตัวของบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เองก็อยู่ต่างจังหวัด จึงเกิดภาพชินตาทุกปีเวลากลุ่มดังกล่าวเอาอุปกรณ์การเรียนและเสื้อผ้านักเรียนเข้ามาแจก จนกระทั่งเขาได้มีโอกาสเข้ามาทำงานในกรุงเทพมหานคร และมีการถูกหยิบยื่นโอกาสให้เข้าวงการบันเทิง ด้วยความที่เป็นพลเมืองดีช่วยเหลือคนเป็นทุนเดิม เขาจึงได้ร่วมงานกับมูลนิธิร่วมกตัญญูมาจนถึงทุกวันนี้

“ตอนเด็กเวลาผู้ใหญ่ถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ผมไม่เคยให้คำตอบกับตัวเองได้เลยว่าอยากเป็นอะไร ตำรวจ ทหาร นายธนาคาร สจ๊วต หรืออะไร ไม่เคยรู้คำตอบเลย พอมาเล่นหนังเราบอกตัวเองว่าสิ่งนี้หรือเปล่าที่เราอยากทำ…ไม่ใช่ เพราะวันหนึ่งเราไม่มีหนังเล่นแล้ว เราก็ไม่ได้ทำอะไร นอนอยู่บ้านเฉยๆ จนวันหนึ่งได้ออกมาเก็บศพ ออกมาช่วยเหลือคน นั่นคือคำตอบในชีวิตว่าสิ่งนี้แหละที่เราต้องการมาทั้งชีวิต แต่เราหาคำตอบไม่เจอว่ามันคืออะไร เด็กๆ จะมีพวกสมุดดินสอของมูลนิธิร่วมกตัญญูไปแจกที่บ้านนอก จึงเริ่มรู้สึกว่าถ้าโตเป็นผู้ใหญ่ก็อยากจะทำแบบนี้ เลยเริ่มจากการไปเข้าร่วมเก็บศพไม่มีญาติ จนเริ่มมาเรียนในกรุงเทพฯ พอเกิดอุบัติเหตุก็จะเข้าไปช่วยเขาก็ได้เจอพวกพี่ๆ ร่วมกตัญญู ป่อเต็กตึ๊ง ก็เริ่มเป็นอาสาร่วมกตัญญูมาจนถึงวันนี้”


อุดมคติในการทำงาน : ถึงแม้ได้ดีในวงการบันเทิงมาแล้ว แต่ในเรื่องของงานด้านสังคมสงเคราะห์นั้น ชื่อเสียงของ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กลับโด่งดังไม่แพ้งานแสดงเลย เพราะเขาได้ทำในสิ่งที่ตัวเอง “รัก ”

“สนุกกับการได้ทำในสิ่งที่เรารัก เราชอบ สิ่งนี้เราค้นหามานานแล้ว ว่าเราอยากช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก คนที่เดือดร้อนไม่มีใครเหลียวแล เป็นสิ่งที่เราทำอยู่ ทุกวันนี้มีความสุขมาก ถึงแม้ว่ามันจะเหนื่อยบ้าง ไม่เคยที่จะหยุดหรือท้อแท้อะไรไม่มีเลย กับมูลนิธิร่วมกตัญญูเราก็ทำอยู่ ช่วยเหลือคนที่ประสบอุบัติเหตุกับคนที่เสียชีวิต แต่หลักๆ ปัจจุบันนี้ช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก หรือคนที่ถูกทอดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นข้างถนนหรืออยู่ตามที่ต่างๆ ผมกำลังจะบอกว่าสิ่งที่ผมทำ ผมก็อยากที่จะทำให้มันเป็นประโยชน์ต่อสังคมมากที่สุด อย่างผมทำมูลนิธิร่วมกตัญญูมา ผมภูมิใจว่าหลายๆ คนอยากทำงานอย่างผม ซึ่งหลายๆ คน ดาราหลายๆ คนที่เข้ามาในมูลนิธิต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นป่อเต็กตึ๊ง หรือร่วมกตัญญู นั่นคือสิ่งที่ผมภูมิใจ”

แง่มุมความคิดการแสดงออกทางการเมือง : ชัดเจนที่สุดเห็นจะเป็นการปกป้องสถาบัน

“ไอ้พวกสัตว์นรกชอบทำความแตกแยกคนไทยด้วยกัน…ฯลฯ” ถ้อยคำรุนแรงบนโลกไซเบอร์ด่าทอกลุ่มคนที่ตัดต่อรูปภาพ และโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกพูดถึง และมีการตอบโต้กันอย่างรุนแรงในสังคมออนไลน์

“ผมเปิด facebook มาประมาณ 3-4 ปีแล้ว เป็นคนอัปเดตข่าวเองทั้งหมด แต่มาวันหนึ่ง ผมมาเปิดดู มีพวกที่โพสต์ภาพพระองค์ท่าน เอามาตัดต่อ ผมด่าพวกมันเป็นสัตว์นรก ผมพูดอย่างนี้จริงๆ ผมทนไม่ได้ ผมถือว่าผมเป็นประชาชนคนหนึ่ง จะมานั่งเฉยๆ โดยเห็นพระองค์ท่านโดนด่า โดยไม่มีใครมาปกป้องพระองค์ท่าน ผมทนไม่ได้ ใครล้มเจ้า…เจอกู!..” นี่เป็นคำตอบโต้กลุ่มคนที่ไม่หวังดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์จากปากของ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์


ความดีที่สั่งสม : ภาพที่เห็นหลักๆ นอกเหนือจากการเป็นนักแสดงดังในวงการบันเทิงแล้ว บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ยังปฏิบัติหน้าที่งานด้านสงเคราะห์สังคมได้ดีเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ, ผู้เสียชีวิต และผู้ด้อยโอกาสตกทุกข์ได้ยาก อาทิ

1. ได้รางวัลคนดี จิตอาสา จากสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 54 (เพื่อคัดสรรคนดีประเทศไทย เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปีที่ 4 ประจำปี 2554) เหตุเข้าชาร์จแย่งมีดจากแม่ค้าที่เกิดอาการเครียดใช้มีดจี้ลูกชายวัย 1 ขวบ เป็นตัวประกัน

2. เปิดสื่อกลางบนสังคมออนไลน์ผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊กช่วยเหลือชาวบ้าน โดยใช้ชื่อเพจว่า บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ซึ่งแฟนเพจ ณ ตอนนี้มีจำนวนราวๆ 7 แสนกว่าคน โดยเพจดังกล่าวมีจุดประสงค์เป็นสื่อกลางถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ของผู้ประสบทุกข์ได้ยากบนเพจของตนเอง เพื่อให้คนในสังคมช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสกว่า

3. ถูกตั้งให้เป็น “รหัสดาราหมายเลขหนึ่ง” ในงานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

4. เป็นผู้จัดการกิจกรรมพิเศษ มูลนิธิร่วมกตัญญู ดูแลบริหารจัดการอาสาสมัครทั่วประเทศกว่า 5,000 คน โดยที่ไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ และทำงานมาร่วม 20 กว่าปี

ฯลฯ อีกมากมาย

ผลงานตัวอย่าง : 

-เหตุการณ์สึนามิในไทย ปี 2547 เกิดในภาคใต้ของประเทศไทย มีผู้บาดเจ็บ สูญหายจำนวนมาก

-เหตุการณ์เพลิงไหม้ซานติก้าผับ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ปี 2552

เหตุการณ์อุทกภัย ปี 2554 เป็นอุทกภัยรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวไทยเป็นจำนวนมาก

-การช่วยเหลือประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยากอีกจำนวนมาก


ข้อมูลจาก : บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์.sabuyblog.com ,https://www.facebook.com/Bhin.fanclub และ Astv ผู้จัดการสุดสัปดาห์

No Comments Yet

Comments are closed

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE