‘เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร’ จาก ‘หนุ่มคราฟต์เบียร์’ สู่สภาฯ


ทันทีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต ทำให้ ‘หนุ่มคราฟต์เบียร์’ ผู้เคยโด่งดังจนเป็นข่าวหน้าหนึ่ง จากการโดนจับกุมด้วยข้อหามีภาชนะและทำสุราโดยไม่ได้รับใบอนุญาต กลายมาเป็นผู้แทนราษฎรเขต 22 ธนบุรี คลองสาน บางกอกใหญ่ ในวันที่เมฆฝนผ่านพ้นชีวิต เดินทางสู่กลางสภาอันทรงเกียรติ ชีวิตต้องผ่านอะไรบ้าง แล้วในฐานะนักการเมืองเขามีแผนการอย่างไรกับอนาคต… mars ชวนติดตามเรื่องราว ‘เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร’ ไปพร้อมกัน

“ผมไม่คิดว่าเรื่องการแต่งตัวจะไปยึดโยงหรือสำแดงความสามารถแทนบุคคลได้เลย มันเป็นเพียงแค่รสนิยม รูปลักษณ์ภายนอก สีผิว ความคิดเห็นทางการเมือง หรือว่าเพศสภาพ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวกับความสามารถในการทำงาน”

อยากทราบความรู้สึก วินาทีหลังจากรู้ตัวว่าได้รับเลือกตั้ง
ตอนนั้นรู้สึกเมาค้างครับ (ยิ้ม) แต่ถามว่าแปลกใจไหม เราไม่แปลกใจ เพราะตอนเราหาเสียง เราเจอผู้คน เราเก็บข้อมูล เราทำงานสถิติแล้วก็คำนวณ วันนั้นหลังจากติดตามข่าวแล้วรู้ว่าตัวเองได้รับเลือก ผมอยากทำอะไรรู้ไหม ผมอยากนอนเลย เพราะทำงานหนักมาสามสี่เดือน ผมอยากเก็บเรี่ยวแรงไว้แล้ววันรุ่งขึ้นไปเริ่มต้นพิสูจน์กับคำสัญญา คือตอนหาเสียงชาวบ้านชอบพูดว่า เดี๋ยวพอมันได้รับเลือกแล้วก็ไม่มาให้เห็นหรอก นี่เป็นความรู้สึกที่เราจำได้ว่า เรารู้สึกกับผู้แทนของเราแบบนี้มาตลอด ก็เลยจะพยายามทำให้เห็นว่า การเมืองมันทำให้ดีได้ นักการเมืองเห็นหัวประชาชนได้

เริ่มมีสัญญาณความเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่ก่อตัวไหม
เริ่มมีงานประเพณีงานบุญ ล่าสุดได้เป็นประธานบวชสามเณรภาคฤดูร้อน แต่ยังไม่มีซองประธานผ้าป่านะ แล้วต้องใช้พื้นที่นี้ประกาศเลยว่าไม่ต้องเอาซองมาให้นะครับ ผมไม่มีเงินใส่ แต่ถ้ามีงานไหนจะชวนไปก็ยินดี เพราะปกติเราไปช่วยบริการเสิร์ฟน้ำ เก็บเก้าอี้ ปิดศาลา ไปมีส่วนร่วมกับงานพวกนี้ตามหน้าที่ของคนในสังคมอยู่แล้ว

ยังนึกไม่ออกว่าคุณก้าวสู่สนามการเมืองได้ยังไง
มีนักกิจกรรมคนหนึ่งมากินเบียร์ที่บาร์ของผม บาร์ที่โดนจับนั่นแหละ เรานับเขาเป็นลูกค้า แต่วันนั้นเขาชวนผมให้ลองไปงานสัมมนาเกี่ยวกับพรรคการเมืองคนรุ่นใหม่ ตอนตัดสินใจไปนี่ไม่รู้จักใครเลย ไม่ว่าจะธนาธร หรือปิยบุตร แต่พอฟังแล้วน่าสนใจ ก่อนกลับบ้านคุณธนาธรก็มาถามผม ประมาณว่าจะเอาด้วยไหม ผมตอบไปตรงๆ ถ้าพี่ไม่ทำผมก็จะทำพรรคคราฟต์เบียร์และกัญชาเสรีอยู่แล้ว เพราะทุกวันในชีวิตของผมเชื่อว่าการผลักดันนโยบายบางอย่างมันจำเป็นต้องเริ่มจากกฎหมาย แล้วกฎหมายต้องคลอดจากสภา วิธีการที่จะช่วยให้เราทำงานประสบความสำเร็จได้ ก็คือพาตัวเองไปนั่งในสภา จากวันนั้นเท่าพิภพเลยกลายเป็นหนึ่งในยี่สิบหกผู้จดจองชื่อจัดตั้ง เรียกว่าอยู่มาตั้งแต่วันแรก แล้วก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหนนะ (หัวเราะ)

เข้าสภาต้องใส่สูทนะ ที่บ้านคุณมีสูทไหม คิดหรือยังว่าจะแต่งตัวยังไงเข้าสภา?
ผมเพิ่งไปตัดมาเมื่อเช้า เพราะในวันแรกของการเปิดสภาต้องใส่ชุดตามแบบรัฐพิธี ส่วนหลังจากนั้น หัวหน้าพรรคบอกผมว่า คุณอยากใส่อะไรก็ใส่เลย เอาที่มันสุภาพตามระเบียบก็พอ แล้วนิยามคำว่าสุภาพของเท่าพิภพมันแค่ใส่เสื้อโปโล กางเกงขายาวรองเท้าผ้าใบ ผมอยากจะลองทดสอบนิยามนี้ดู ไม่ใช่ว่าลองของหรืออะไร แต่ตามกฎเกณฑ์เขาว่ามาเท่านี้จริงๆ และผมเชื่อว่ามันก็สุภาพนะ สมมุติผมยกตัวอย่างผู้แทนในพรรคเราซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์เขามีชุดประจำเผ่าของเขา มันอาจจะแขนกุดหรือมีสีสัน แล้วเขาใส่ในงานพิธีการ งานแต่งงานกัน ถ้าคุณบอกว่ามันไม่สุภาพจะทำยังไงล่ะทีนี้ แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับความเห็นของที่ประชุม ของประธานสภา ว่ากันตามประเพณีนิยม ส่วนตัวผมจะยอมทำตาม เพราะไม่ได้อยากมาแข็งขืนกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว แต่ต้องย้ำกันเลยว่าในพรรคอนาคตใหม่อุดมไปด้วยความแตกต่างหลากหลาย ทั้งผู้มีความหลากหลายทางเพศ ทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ คนพิการ ผมไม่คิดว่าเรื่องการแต่งตัวจะไปยึดโยงหรือสำแดงความสามารถแทนบุคคลได้เลย มันเป็นเพียงแค่รสนิยม รูปลักษณ์ภายนอก สีผิว ความคิดเห็นทางการเมือง หรือว่าเพศสภาพ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวกับความสามารถในการทำงาน ดังนั้นผมจะบอกว่า การเข้าสภาของพรรคอนาคตใหม่จะสร้างความฮือฮาได้อย่างแน่นอน

อยากบอกอะไรกับคนที่ไม่ได้เลือกคุณ
ผมจะบอกว่าขอบคุณ ที่ออกมาใช้สิทธิใช้เสียงตามระบอบประชาธิปไตย นี่คือความสวยงามในสังคมที่คนเราสามารถคิดเห็นแตกต่างกันได้ แล้วไม่ต้องห่วงเลยว่าถ้าคุณไม่ได้เลือกผมแล้วผมจะไม่สนใจ ยืนยันว่าผมจะเป็นผู้แทนของทุกคน ไม่ใช่แค่ของคนในเขตผมอย่างเดียว เมื่อมีอะไรที่มันขัดขวาง หรือเป็นอุปสรรคต่อประชาชน ผมจะเป็นคนนั้นที่คัดค้าน โดยไม่สนใจว่ามันจะเป็นของฝ่ายไหน หรือแม้กระทั่งในพรรคผมเอง

“อยากเป็นอะไรก็เป็น ต่อให้อยากเป็นเหมือนคนอื่นก็เป็นไป ถ้ามันทำให้เราประสบความสำเร็จบางอย่างในชีวิตได้ แต่ถ้าใครอยากจะเลียนแบบผมนะ ผมบอกไว้เลยว่าอย่า”

วันนี้หากตัดคราฟต์เบียร์ออกไป อยากให้คนรู้จักเท่าพิภพยังไง
ผมเป็นคนชื่อแปลก ตัวสูง แต่สำคัญเลยคือผมเป็นคนไม่ยอมจำนนต่อความอยุติธรรม เอาเป็นว่าเท่าพิภพกับธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เป็นคนเหมือนกัน ต่างนิดหน่อยเพียงผมไม่รวยเท่าคุณธนาธร แล้วสิ่งที่อยากให้ทุกคนจดจำคือเท่าพิภพเป็นนักการเมืองสายพันธุ์ใหม่ แล้วหากตัดคราฟต์เบียร์ออกไป ผมก็คือเด็กธรรมดาที่ชอบลองอะไรใหม่ ตอนผมทำเบียร์อยู่ พอโดนจับกลายเป็นคนนึกว่าไอ้นี่เป็นนักกิจกรรมทางสังคม แล้วจนถึงวันนี้ก็กลายเป็นนักการเมืองไปเลย

โกรธคนที่แจ้งจับคุณวันนั้นไหม
ไม่เลย รู้สึกขอบคุณคนที่แจ้งจับเราวันนั้น รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่มาจับด้วย เพราะพวกเขาทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่ พลเมืองดีทำหน้าที่ด้วยการไม่นิ่งเฉยเมื่อเห็นปัญหา เจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย พอจับเบียร์ที่ผมทำได้เยอะเขาก็เลยโทรตามนักข่าวมา นักข่าวก็นำเสนอข่าวตามหน้าที่ เราทั้งหมดนี้กำลังทำหน้าที่ของตัวเอง วันต่อมาผมเลยไปอยู่หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ กลายเป็นกระแสในสื่อออนไลน์ ก็ยืนยันว่าขอบคุณทุกคน วันนี้ถ้าใครบอกว่าเหล้าเบียร์เป็นสิ่งมอมเมา มันก็มอมเมาจริงแหละครับ แต่ต้องอย่าลืมว่าทุกอย่างมีสองด้านเสมอ สังคมมันคือที่บุคคลหลากหลายมารวมกัน บุคคลเหล่านั้นมีความต้องการต่างกัน ดังนั้นถ้าเรามองในมุมเสรีภาพ เศรษฐกิจ รวมถึงการกระจายอำนาจเพื่อลดทุนผูกขาด ก็นำไอ้สิ่งมอมเมามาถกเถียง ต่อสู้กันทางความคิดได้ คนที่เขาชอบเหล้าเบียร์ยังควรมีสิทธิในสังคมเหมือนกัน

การเป็นตัวของตัวเองสำคัญหรือไม่ในการใช้ชีวิต
ทุกคนไม่สามารถเลียนแบบชีวิตใครได้ ดังนั้นอยากเป็นอะไรก็เป็น ต่อให้อยากเป็นเหมือนคนอื่นก็เป็นไป ถ้ามันทำให้เราประสบความสำเร็จบางอย่างในชีวิตได้ แต่ถ้าใครอยากจะเลียนแบบผมนะ ผมบอกไว้เลยว่าอย่า เพราะผมเหนื่อย ผมล้มเหลวมามาก แล้วก็โดนจับมาแล้วด้วย คุณเห็นใช่ไหม แต่จะบอกว่าถ้าเราลองใช้ชีวิตหลายแบบ มีทักษะในหลายด้านมันจะสามารถเอื้อให้เราทำสิ่งต่างๆ ที่อาจพาเราไปสู่ความสำเร็จได้เหมือนกัน

การทำอะไรที่ใหม่ หรือในบริบทสังคมนั้นไม่เคยมีมาก่อน สำคัญแค่ไหน
จริงๆ ใครอยากทำอะไรก็ทำนะ ทุกอย่างในโลกคงมีคนทำมาก่อนหน้าเราแล้วทั้งนั้น แต่บางอย่างที่เราตั้งใจจะทำในบางสังคมมันไม่สามารถทำได้ ตัวอย่างเช่นผมกับคราฟต์เบียร์ แต่สุดท้ายถ้าคุณทำอะไรแล้วมีคนชี้นิ้วมาบอกว่าคุณกำลังทำสิ่งผิดแล้วคุณกล้าจะลุกขึ้นมาเถียง มาใช้เหตุผลบอกออกไปว่า เราไม่ได้กำลังทำสิ่งที่ผิดมันทำให้สังคมเกิดประโยชน์ เหมือนเรื่องเหล้าเบียร์ถ้าคนมองว่ามันเทา มันผิดกฎหมายมันก็ผิดจริงๆ แต่เราไม่เคยมีใครตั้งคำถามว่ากฎหมายเหล่านั้น มันเป็นธรรมเที่ยงธรรมกับคนทุกฝ่ายแล้วหรือยัง หรือเพียงแค่เป็นเครื่องมือในการกีดกันคนเล็กคนน้อยออกจากผลประโยชน์ของกลุ่มทุน

นอกจากแฟนคลับ มีคนจากกลุ่มอื่นมาติดตามคุณไหม
แน่นอนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ความมั่นคง แต่ทุกคนทำตามหน้าที่ บางทีผมว่าเขาอาจจะอยากลองรสชาติเบียร์ของผมก็ได้ คือทุกครั้งตั้งแต่จัดกิจกรรมตอนทำเบียร์ จนตอนนี้เลิกทำแล้วยังติดตามกันอยู่อบอุ่นดีครับ แต่ผมคงต้องยอมรับว่า คราฟต์เบียร์คือความสุขของการพักผ่อนยามค่ำคืนของผมเสมอ ชีวิตมันต้องมีบางช่วงบางตอนที่เหนื่อย หรืออยากกินเบียร์ อยากคุยกับเพื่อน อยากคุยกับตัวเอง ถ้ามีผู้ติดตามคนไหนอยากให้เลิก ตอนนี้คงยังทำไม่ได้

“คุณจำเป็นต้องไปสู่ดินแดนที่คุณกลัว ถึงแม้ทำแบบนั้นแล้วมันจะยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่เป็นบทเรียนที่ดีในการขยับเขตแดนแห่งความกลัวของเราออกไปเรื่อยๆ”

คุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับคุณมันคืออะไร
ผมเป็นคนท่องเที่ยวคนหนึ่ง ที่เห็นว่าคนไทยชอบไปประเทศเจริญแล้ว ส่วนคนทางตะวันตกชอบไปที่กันดาร คนหนาวชอบไปร้อน คนร้อนชอบไปหนาว พอเราเป็นนักการเมืองที่เคยเป็นนักเดินทางมันทำให้เราเห็นข้อดีจากบ้านเมืองอื่น ผมชอบทุกอย่างของประเทศไทย ยกเว้นปัญหารถติดกับความไม่ยุติธรรมทางชนชั้น ดังนั้นคุณภาพชีวิตดี หมายถึงการอยู่ในสภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และสวัสดิการเพียบพร้อมต่อคนทุกคน ไม่ว่าจะมีรายได้แค่ไหน แล้วทุกคนก็มีสิทธิใช้สอยเสรีภาพของตัวเองโดยไม่ถูกกีดกัน ในแบบที่ไม่รบกวนคนอื่น

คุณพูดถึงรถติด ในฐานะผู้แทนมีไอเดียในแก้ปัญหารถติดยังไง
ทำไมรถติดล่ะ เราต้องถามนะ เพราะคนมันเยอะ รถมันก็เลยเยอะ ถนนจึงไม่พอ มันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของการรวบอำนาจทุกอย่างเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ เมื่อความเจริญและแหล่งงานมันอยู่แค่ในนี้ คนก็จำเป็นต้องเข้ามาใช้ชีวิต ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาหรอกครับ ดังนั้นการที่ผมหรือพรรคอนาคตใหม่ย้ำว่าการกระจายอำนาจจะทำให้รถไม่ติด คนก็งงกันใหญ่ ทำไมมันพูดแบบนี้เกี่ยวกันตรงไหน เราลองจินตนาการดูนะ ย้ำว่าแค่จินตนาการ เพราะตอนนี้มันไม่เป็นอย่างนั้น ถ้าหากว่าจังหวัดอุบลฯ เจริญ นครศรีธรรมราชเจริญ ชุมพรเจริญ หนองบัวลำภูเจริญ จังหวัดหัวเมืองมีแหล่งงาน ผู้คนก็จะกระจายออกไป ความเจริญก็จะกระจายออกไป ความเจริญในที่นี้หมายถึงการอยู่ไหนก็มีงานที่มีคุณภาพ มีโรงพยาบาลที่ดี มีการศึกษาที่ดี มีบุคลากรร่วมกันช่วยพัฒนาตัวเองและท้องถิ่น คนชอบคิดว่าการกระจายอำนาจจะทำให้ควบคุมยาก จึงทำให้เกิดความคิดผูกขาดในการกอดความเจริญไว้ในกรุงเทพฯ ดังนั้นการกระจายอำนาจกับเรื่องแก้ปัญหาจราจรจะแยกออกจากกันไม่ได้ มันไม่มีทางหรอกครับที่คุณจะสร้างถนนเพิ่ม ใจผมอยากทำให้ถนนมันลดลง แล้วใส่ทางเท้าทางจักรยานเข้าไปด้วยซ้ำ เพื่อให้คนใช้รถยนต์ส่วนตัวยากขึ้น แล้วคิดถึงการเดินทางโดยรูปแบบอื่น ทุกวันนี้ผมไม่ได้ปั่นจักรยานเพราะว่ารักโลก แต่มันให้ความสะดวกเวลาคุณอยู่ในเมือง เมื่อมีความคิดที่จะเลือกความสะดวกให้กับตัวเองมากที่สุด คนก็จำเป็นต้องปรับไปใช้รูปแบบการเดินทางนั้น เราไม่มีทางสร้างถนนให้พอกับรถหรอก การก่อสร้างหลังจากนี้ควรจะทำให้คนธรรมดาเดินได้สะดวก คนพิการสามารถไปไหนมาไหนได้ รถขนส่งสาธารณะทั่วถึง มีทางจักรยาน นั่นคือการแก้ปัญหารถติดของผม

คุณมีคำแนะนำสำหรับคนที่จะพาตัวเองไปสู่เป้าหมายในชีวิตไหม
อันดับแรกคุณต้องเชื่อ คุณต้องรักในสิ่งที่คุณทำจริงๆ ไม่รักก็ได้แต่ไม่ควรหยุด เพราะการต่อสู้เพื่อเป้าหมายมันอ่อนแอไม่ได้ สำหรับผมคิดว่าคุณจำเป็นต้องไปสู่ดินแดนที่คุณกลัว ถึงแม้ทำแบบนั้นแล้วมันจะยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่เป็นบทเรียนที่ดีในการขยับเขตแดนแห่งความกลัวของเราออกไปเรื่อยๆ ไม่มีใครสนใจตอนคุณร้องไห้ ตอนคุณล้มเหลวหรอก เอาความสำเร็จไม่ว่าจะเล็กใหญ่ออกมาเป็นเรี่ยวแรงของตัวเองให้ได้

“ความรักที่มันเป็นเรื่องของเหตุผล อาจจะเหนื่อยมากกว่าเรื่องความรู้สึก”

คุณอยู่ตัวคนเดียวไหม มีผู้หญิงในฝันหรือเปล่า
คือผมเป็นประเภทเปิดตู้เจออะไรอยู่ด้านบนก็หยิบมาใส่ ผมเติบโตมากับดนตรีพังค์ เล่นสเก็ตบอร์ด ถ้าถามเรื่องผู้หญิงสำหรับผมนี่มันสมัยใหม่ แล้วผมสนใจผู้หญิงทุกคน แต่ตอนนี้ผมมีแฟนครับ เราเจอกันในทินเดอร์ จะให้ไปรำวงจีบกันในวัดมันคงหายากแล้วไหม แต่สำคัญตรงที่สุดท้ายคือคุณต้องทำยังไงก็ได้ให้ไอ้คนจากในโลกโทรศัพท์มือถือออกมาเจอกันจริงๆ เครื่องมือมันก็เป็นแค่เครื่องมือ ไม่จำเป็นต้องไปจัดวรรณะว่าเจอกันจากแอพพลิเคชั่นไหน ถ้าสุดท้ายมันลงเอยกันได้รักกันได้ หมายความว่าเราใช้เครื่องมืออย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่จะบอกว่าความรักที่มันเป็นเรื่องของเหตุผล อาจจะเหนื่อยมากกว่าเรื่องความรู้สึกนะเท่าที่มีแฟนมา

มีอะไรที่ไม่ได้ถามแต่อยากบอกไหม
ผมอยากเล่าเรื่องธนบุรี ย่านนี้เป็นย่านที่ผมมาใช้ชีวิต มาปั่นจักรยานแล้วรักมาก เป็นย่านที่ดูเป็นวิถีกรุงเทพฯ จริงๆ ผมอยากชวนทุกคนออกมามีส่วนร่วมในการพัฒนา ทำให้ฝั่งธนกลับมามีชีวิตชีวา ผมไม่ได้ชวนออกมาอนุรักษ์แค่ตึกรามบ้านช่อง แต่ชวนมาหวงแหนส่งต่อธุรกิจเก่าที่มีเสน่ห์ รวมถึงส่งเสริมธุรกิจใหม่ในพื้นที่ของเรา ถ้าหากใครมีกลุ่ม มีก๊วนทำกิจกรรมดีๆ ก็ประสานมา ช่วยอะไรได้ยินดีจะช่วยให้มันสำเร็จ เลยอยากชวนทุกคนมาร่วมกันทำงานภายใต้คอนเซ็ปต์ว่า Thonburi is real Bangkok

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE