นอกจากจะมีภาพแฟชั่นร้อนๆ ที่นางแบบสาวฮอต ‘แนน กนกญาดา’ ถ่ายกับ mars plus มาให้ชมแล้ว ทางทีมงานชวนเธอคุยเจาะประเด็นแรงๆ ว่าด้วยเมียน้อย 4.0 ‘เป็นชู้นั้นเสรีและมีเงินใช้’ จริงหรือ!?
ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน คำว่า ‘เมียน้อย’ หรือ ‘ชู้’ ดูจะเป็นอะไรที่บาดลึกหัวใจเมียหลวงเป็นอย่างยิ่ง แต่ในยุคข่าวสารสไลด์นิ้วผ่านจอ เรากลับเห็นภาพชายหนึ่งหญิงสอง (หรือแม้แต่สาม) อยู่ด้วยกันอย่างชื่นมื่น เปิดเผย หลายคู่ยอมรับสถานะกันอย่างเข้าอกเข้าใจ และให้ที่ยืนกันและกัน เกิดอะไรขึ้นกับสถานะครอบครัวในวันนี้? เรามาไขคำตอบแซ่บๆ กับนางแบบสุดฮอต ‘แนน-กนกญาดา จิตรอำพัน’ ผู้ที่กล้ายืนยันว่า สถานภาพเมียน้อยทุกวันนี้เปิดกว้างแล้ว!
ชอบอารมณ์ของความเป็นชู้ไหม
ไม่ได้ชอบ แต่คนที่เป็นชู้ส่วนมากเลือกไม่ได้
เลือกไม่ได้หรือไม่อยากจะเลือก
ไม่อยากที่จะเลือกด้วยและเราเลือกไม่ได้ด้วย ถ้าเราเลือกได้ เราก็อยากเป็นที่หนึ่งนะ แต่ถ้าเราเลือกไม่ได้เราก็ต้องยอม เหตุผลที่ต้องยอมมันก็มีหลายๆ ประเด็น แต่ถามว่าเสียใจไหม? เสียใจค่ะ แต่ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะเราต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้ว เชื่อว่าคนที่เป็นเมียน้อยทุกคนไม่ได้พอใจสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ เพราะบนโลกใบนี้ทุกคนไม่มีใครอยากทนแบบนั้นหรอก แต่เราทนในสิ่งที่เรามีความสุข เราได้ในสิ่งที่อยากได้ เราถึงทน
หมายความว่าเงินเป็นที่ปรารถนา มากกว่าความรัก
ความรักยุค 4.0 ประมาณ 80% นี่เป็นเรื่องเงิน ที่เหลือเป็นความรัก เพราะคนทุกวันนี้ อย่างเรามีแฟนอยู่แล้ว เราไปเจอคนที่ดูแลเราได้เราก็อยากคุยกับเขานะ ถ้าแฟนซัพพอร์ตได้ไม่ดีพอ เราก็ยังอยากจะมีเขาอยู่ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเมียน้อยใคร แต่ทุกวันนี้เงินสำคัญที่สุด เงินเท่านั้นซื้อได้ทุกอย่าง เงินมาผ้าหลุดเคยได้ยินไหม
ยอมเป็นอย่างนั้นตลอดชีวิตได้เหรอ
ไม่แน่ใจ แต่เชื่อว่าผู้หญิงบางคนทุกวันนี้เลือกที่จะยอม เพราะเลือกที่จะไม่เสียเขาไป และไม่อยากเสียทุกอย่างที่เราเคยมี เพราะบางคนรับไม่ได้กับสิ่งที่ต้องสูญเสียไป แล้วอีกหนึ่งความคิดการที่เราคบกับคนที่เขามีครอบครัวอยู่แล้วเราจะไปไหนก็ได้ ไม่มีใครมาจู้จี้จุกจิกเหมือนตอนที่เรามีครอบครัว
เหมือนกำลังจะบอกว่า เป็นชู้นั้นเสรีและมีเงินใช้?
ถูกต้องค่ะ
ถ้าเช่นนี้จะพาให้ระบบครอบครัวไทยไปสู่จุดไหน
ถ้ามองเรื่องสถาบันครอบครัวมันก็ไม่ถูก เราก็ไม่ได้สนับสนุนการเป็นเมียน้อย แต่มันคงห้ามไม่ได้ เราไม่สามารถสั่งทุกคนให้เป็นในสิ่งที่ต้องการได้ เราควรทำในขอบเขตของเรา ถ้ามีสติก็คิดนิดนึง ถ้าเราทำไม่ได้จริงๆ ก็ควรจะอยู่ในจุดที่เราควรจะอยู่ไม่ให้มีปัญหา
ปัญหาหลักของการมีเมียน้อยก็คือการแฉกันมากกว่า เราไม่ค่อยชอบในอารมณ์แบบนี้นะ เพราะบางครั้งความรู้สึกของคนสองสามคนในครอบครัว มันไม่จำเป็นต้องให้บุคคลภายนอกหรือใครต่อใครเอาเรื่องของเราไปพูด คือสามคนนี้มันก็ต้องมีคนเกลียดคนชอบเป็นเรื่องธรรมดา เมียน้อยก็ต้องมีคนเกลียด เมียหลวงก็ถูกชอบให้กำลังใจ แต่ถามว่าชีวิตจริงเรื่องแบบนี้มันควรอยู่แค่คนในครอบครัว ไม่ใช่ประณามให้ใครต่อใครที่ไม่รู้จักเรา ให้เขามารับรู้เราในข้อลบมากกว่าข้อบวก
คิดยังไงถ้าวันหนึ่งเมียหลวงอยากให้เมียน้อยออกไปจากชีวิตครอบครัว
เรื่องแบบนี้เมียหลวงไม่มีสิทธิ์นะ ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลของเรา ถ้าเมียหลวงเขาสั่งได้เขาคงสั่งตั้งแต่แรกแล้วล่ะ คงไม่ได้อยู่กันตรงนี้ เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่เราและบุคคลของเราด้วย
ยุคนี้เมียน้อยเป็นใหญ่อย่างนั้นเหรอ
ก็ไม่ได้เป็นใหญ่นะ เรื่องเมียน้อยเมียหลวงมันไม่ได้มีแค่ พ.ศ. นี้ มันมีมาตั้งนานแล้ว แต่สังคมแค่ไม่ยอมรับ ปฏิเสธมัน แล้วก็เหยียดหยามการเป็นเมียน้อย แต่ปัจจุบันนี้เมียน้อยก็มีจุดยืน ทำให้รู้สึกว่าการเป็นเมียน้อยเปิดกว้างขึ้น มีมากขึ้น แล้วเงินเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การเป็นเมียน้อยอยู่สุขสบายมากกว่าการเป็นเมียคนเดียวแล้วเราทุกข์ เลยนิยมที่จะเป็นน้อยมากกว่าเป็นหลวง
จุดยืนของคนเป็นเมียน้อยคืออะไร
สำหรับเรามองว่าความสวย ถ้าไม่สวยเขาคงไม่มีเราเป็นคนที่สอง นั่นแหละที่ทำให้เขาอยู่กับเรา และต้องไม่เรียกร้อง ถ้าเรียกร้องเมื่อไหร่เขาจะรู้สึกว่าเมียเขาสำคัญ เราต้องไม่ขอในสิ่งที่เขาไม่เคยขอ และเราควรทำตัวให้น่าสงสาร
สวยแล้วต้องแซ่บไหม
เรื่องเซ็กซ์มันก็ต้องแซ่บอยู่แล้ว เหมือเรากินข้าว ถ้าเรากินร้านนี้อร่อย แต่ไปเจออีกร้านอร่อยกว่า เราก็ต้องกินร้านที่อร่อยกว่าถูกไหม
อยากฝากอะไรถึงผู้หญิงและผู้ชายที่กำลังอยู่ในสภาวะชู้
ถ้าความรักที่มีมันไม่ดี แล้วพร้อมที่จะมีคนใหม่เข้ามา ขอให้เลือกคนใหม่ดีกว่าที่จะทนเจ็บไปแบบนี้ ก้าวไปข้างหน้าแล้วมันดีกว่าอยู่ข้างหลัง เราก้าวดีกว่าค่ะ แต่ต้องถามตัวเองก่อนนะว่าเราพร้อมไหม ถ้าไม่พร้อมหยุดอยู่กับที่
อยากบอกว่าผู้หญิงที่เขายอม ไม่ใช่เพราะเขาไม่มีที่ไป บางครั้งมันเกิดจากความรัก เกิดจากสิ่งรอบข้างทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเขาไม่รัก เขาไม่เลือกคุณเข้ามาในชีวิตแน่นอน